ทีเส็บนำเสนอเชียงราย จุดหมายธุรกิจไมซ์

กรุงเทพฯ – 25 กรกฎาคม 2559 – สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดินหน้าตอกย้ำชื่อเสียงของไทยในฐานะผู้นำด้านการเป็นศูนย์กลางการจัดงานทางธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเชีย ชูเชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ในเขตสามเหลี่ยมทองคำ เปิดตัวด้วยกิจกรรมประจำปี TCEB International Media Familiarization trip หรือ IMFT 2016 เชิญสื่อมวลชนจากทั่วโลก รวม 30 ราย ร่วมสัมผัสประสบการณ์การจัดงานไมซ์ในเส้นทาง กรุงเทพฯ – เชียงราย ชูความผสมผสานของสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงไมซ์และแนวคิดการจัดงานที่หลากหลายรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์

ในด้านความสำเร็จของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ทีเส็บ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 หรือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 นั้น ไทยได้มีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งสิ้น 493,384 ราย และก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนให้กับเศรษฐกิจไทยทั้งสิ้น 39,671 ล้านบาท โดยจากตัวเลขดังกล่าว แบ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มการประชุมองค์กรจำนวน 135,240 คน (ร้อยละ 22) กลุ่มการท?องเที่ยวเพื่อเป?นรางวัลจำนวน 143,053 คน (ร้อยละ 23), กลุ่มการประชุมนานาชาติ จำนวน 141,015 คน (ร้อยละ 22) และและกลุ่มการแสดงสินค้านานาชาติจำนวน 74,076 คน (ร้อยละ 12) โดยตลาดหลัก 5 อันดับแรก มาจากจีน อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา

เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย รายงานล่าสุดของ International Congress and Convention Association หรือ ICCA เปิดเผยว่าอันดับของไทยในฐานะเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดการประชุมนานาชาติระดับโลกได้เลื่อนขึ้นมาจากลำดับที่ 33 ในปี พ.ศ. 2557 เป็นลำดับที่ 27 ในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนการจัดการประชุมนานาชาติเพิ่มขึ้นจาก 118 งาน ในปี พ.ศ. 2557 เป็น 151 งาน ในปี พ.ศ. 2558 สำหรับอันดับของไทยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ไทยอยู่ในอันดับที่ 6 รองจากญี่ปุ่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ อันดับของกรุงเทพฯ ยังเลื่อนขึ้นจากลำดับที่ 29 ในปี พ.ศ. 2557 มาอยู่ที่ 16 ในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนการจัดการประชุมนานาชาติเพิ่มขึ้นจาก 73 งาน ในปี พ.ศ. 2557 มาเป็น 103 งาน ในปี พ.ศ. 2558 เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในเอเชียแปซิฟิกแล้ว กรุงเทพฯอยู่ในอันดับที่ 4 รองจากสิงคโปร์ กรุงโซล และฮ่องกง

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของไทยในฐานะเป็นจุดหมายปลายทางงานด้านไมซ์นั้น เป็นผลมาจากกลยุทธ์การทำงานแบบภาคีความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อประสานประโยชน์ร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยนำเอาทุนทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นทุนทางสังคมของประเทศผสานกับภูมิปัญญาชาวบ้าน ผนวกกับแนวคิดในการสร้างสรรค์กิจกรรมหลากหลาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย โดยมีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างชื่อเสียงของไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางการจัดงานทางธุรกิจในระดับโลก”

ทั้งนี้ ทีเส็บ ได้วางกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ประเทศในเรื่องดังกล่าว ผ่านการนำเสนอจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการทำรองรับจัดงานทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการตอกย้ำภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางหลักเพื่อการจัดงานเชิงธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

โดยตลอดช่วงระยะเวลาของกิจกรรม TCEB International Media Familiarization Trip 2016 สื่อมวลชนผู้เข้าร่วมจะได้มีโอกาสสัมผัสและรับรู้เรื่องราวประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมไมซ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เช่น เส้นทางรถไฟฟ้าใหม่ๆ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้เรายังได้ดึงจังหวัดเชียงรายมานำเสนอแก่สื่อมวลชนเนื่องจากศักยภาพและความพร้อมในฐานะจังหวัดทางตอนเหนือสุดของประเทศมีที่ตั้งอยู่ในเขตสามเหลี่ยมทองคำ จึงเป็นจุดเชื่อมโยงการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ ลาว พม่า และจีน (ตอนใต้) ได้อย่างสะดวกเหมาะกับความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ และด้วยสภาพโดยรวมของเชียงรายที่มีความสงบ มีวัฒนธรรมสวยงาม มีที่พักที่สะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงไมซ์ที่ทันสมัยครบครัน จึงทำให้เชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถรองรับความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ทีเส็บยังได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านไมซ์สำหรับกลุ่มลูกค้า เน้นการนำเสนอเอกลักษณ์อันโดดเด่นของไทยในด้านต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การผจญภัย การสร้างทีมเวิร์ค กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ กิจกรรมบรรยากาศชายหาด การจัดงานแบบหรูหรามีระดับ และกิจกรรมนำเสนอเส้นทางอาหารต่างๆ

โดยองค์กรความร่วมมือในการจัดกิจกรรม IMFT 2016 ครั้งนี้ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การบินไทย สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ และจังหวัดเชียงราย โดยทุกองค์กรมาร่วมผลักดันให้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในการสร้างชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ในระดับภูมิภาค

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้วางกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพให้เดินทางมาเยือนประเทศไทย ด้วยการมองหาตลาดใหม่ๆ และพัฒนาสินค้าสำหรับตลาดความสนใจเฉพาะ ทั้งนี้การสนับสนุนการจัดงานของ ทีเส็บ ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยที่มีความหลากหลายทั้งด้านสถานที่และกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนยังเป็นโอกาสอันดีที่จะประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีคุณภาพ หรือ “Quality Leisure Destination” ผ่านความเป็นไทย หรือ Thainess ซึ่งสะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ความมีมิตรไมตรีในการต้อนรับ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง หรือสปา ซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ได้สัมผัสระหว่างการเยือนประเทศไทย”

นางกัลยาภา พานิช ผู้จัดการกองขายการประชุมและสัมมนา การบินไทย กล่าวว่า “การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ มีส่วนในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานการประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ จากการที่การบินไทยได้เคยเป็นสมาชิกสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) ทำให้พนักงานของเราได้รับการถ่ายทอดความรู้ความชำนาญในการจัดการประชุมนานาชาติ และเข้าใจถึงความต้องการของผู้จัดงาน จึงสามารถให้บริการได้อย่างดียิ่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจการจัดประชุมในเอเชีย การบินไทยได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) ในการให้การสนับสนุนผู้จัดงานทั่วโลกที่เข้ามาจัดงานประชุมในประเทศไทย”

นายอนุชิต สรรพอาษา รักษาการผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานวางแผนกลยุทธ์การตลาด คิง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 27 ปี ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีก ปลอดภาษีและอากรของประเทศไทย คิง เพาเวอร์ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจ MICE ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อการประชุมและการจัดนิทรรศการ เนื่องจากคิง เพาเวอร์มีโรงละครอักษรา ที่สามารถรองรับการประชุมจำนวน 600 ที่นั่ง พร้อมทั้งห้องอาหารสำหรับจัดเลี้ยง รวมไปถึงโรงแรม Pullman Bangkok King Power ที่ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 366 ห้อง และห้องประชุมที่สามารถรองรับกลุ่มนักธุรกิจ MICE โดยเฉพาะ ได้ที่ร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร จำนวน 9 แห่ง ในเมือง 4 แห่ง คือ รางน้ำ ศรีวารี พัทยาและภูเก็ต และร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในท่าอากาศยานนานาชาติ 5 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ และภูเก็ต”

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจย่านราชประสงค์ กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์” นับเป็นหัวใจสำคัญของย่านการค้าของกรุงเทพฯ ในด้านเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว หรือ “แบงค็อก ดาวน์ทาวน์” พร้อมทั้งยังเป็นศูนย์กลางสำคัญในการจัดงานประชุม โดยมีพื้นที่รวมกว่า 420,000 ตารางเมตร และมีโรงแรมระดับหรูอีก 7 แห่ง พร้อมทั้งยังมีห้องพักรับรองมากถึง 3,648 ห้องจากโรงแรมระดับหรูหรา ทั้งนี้ ย่านราชประสงค์ยังเป็นที่รวมไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และสปา ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก รวมทั้งเยี่ยมชมวัฒนธรรมประจำย่านราชประสงค์ได้แก่ การสักการะองค์ท้าวมหาพรหมและเทพรอบย่านรวม 7 พระองค์ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วด้วยรถไฟฟ้า และทางเดินลอยฟ้าที่สามารถเชื่อมทุกโรงแรมและศูนย์การค้าโดยสามารถเดินถึงกันได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในทุกฤดูกาล

ทีเส็บยังได้นำเสนอ Thailand CONNECT Welcome Package ซึ่งเป็นแพคเกจสนับสนุนการเดินทางด้านธุรกิจ เพื่อให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์สามารถเชื่อมต่อธุรกิจได้ตลอดเวลาที่อยู่ในไทย โดยแพคเกจนี้ประกอบด้วยบัตร BTS แผนที่สำหรับเดินทางไปสถานที่จัดงานไมซ์และแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั่วกรุงเทพ รวมทั้ง USB Drive การ์ด / ไวไฟอินเตอร์เน็ตฟรี 7 วัน บัตรส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าและสถานประกอบการย่านราชประสงค์ เป็นต้น โดยแพคเกจนี้จัดไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะมาเยือนเมืองไทยจนถึงเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2559 นี้

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 นี้ ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพงานสำคัญระดับโลกหลากหลายงาน อาทิ งาน Infinitus China Overseas Training 2016 งาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ซึ่งเป็นงานประชุมระดับนานาชาติของกลุ่มผู้จัดงานจัดนิทรรศการจากทั่วโลก งาน International Society of Sugarcane Technologists Congress งาน Bangkok Entertainment Week 2016 งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2016 และงาน ProPak Asia 2016 เป็นต้น

ทั้งนี้ ทีเส็บ คาดการณ์ว่าทั้งแพคเกจ Thailand CONNECT Welcome 2016 กอรปกับกลยุทธ์การตลาดต่างๆ ของทีเส็บตลอดปีนี้ จะสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยได้ร้อยละ 5 จากปี พ.ศ. 2558 และส่งผลให้ไทยได้ต้อนรับโดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์กว่า 1 ล้านคน และช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศได้ ประมาณ 92,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 นี้

# # #

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ส่วนงานสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการอาวุโส โทรศัพท์ 02-694-6095    อีเมล arisara_t@tceb.or.th

นางสาวกนกวรรณ กะดีแดง ผู้จัดการ    โทรศัพท์ 02-694-6006    อีเมล kanokwan_k@tceb.or.th

นางสาวฐิติวัลยา ไทยมงคลรัตน์    ผู้จัดการ    โทรศัพท์ 02-694-6103    อีเมล titiwanlaya_t@tceb.or.th

นางสาวขวัญชนก อดทน ผู้ปฏิบัติการ    โทรศัพท์ 02-694-6096    อีเมล kwanchanok_o@tceb.or.th

นางสาวปนิยดา มุลาลินน์    ผู้ปฎิบัติการ โทรศัพท์ 02-694-6091    อีเมล paniyada_m@tceb.or.th

แชร์บทความ