รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เรื่อง เขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การใช้ข้อปฏิบัติ ข้อกำหนด และมาตรการที่เข้มงวด วันที่ 8 มกราคม 2564

editor image


รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

เรื่อง  เขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การใช้ข้อปฏิบัติ ข้อกำหนด และมาตรการที่เข้มงวด

วันที่ 8 มกราคม 2564


เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นในการระงับการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวด นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 17 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังนี้

  1. ยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด คือ รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ใช้แอปพลิเคชันที่กำหนด และยอมรับการกักตัวตามระยะเวลาที่กำหนด รัฐบาลสนับสนุนให้ใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” คู่กับการใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”

  1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่ง

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคม การใช้ยานพาหนะของประชาชนในการเดินทางเข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดระยอง และจังหวัดสมุทรสาคร โดยตั้งจุดตรวจเพื่อคัดกรองอย่างเข้มข้น และผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าวให้ใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บุคคลที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ต้องแจ้งเหตุผลความจำเป็น บัตรประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่นๆ คู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่บุคคลที่ได้รับการยกเว้น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 กระทรวงมหาดไทยกำหนด

  1. การปราบปรามและลงโทษ ผู้กระทำผิดที่เป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค

หากพบเห็นการกระทำของพนักงาน เจ้าหน้าที่ รวมทั้งบุคคลใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างประเทศโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบ คัดกรองโรค การกักกันตัวตามมาตรการสาธารณสุข รวมทั้งการละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้ออำนวยหรือสมรู้ร่วมคิดให้มีการเปิดบ่อนการพนันขึ้นในพื้นที่ต่างๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาที่นายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ทำเนียบรัฐบาล

  1. โทษ

ผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดซึ่งออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นความผิดซึ่งอาจต้องโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรค อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ด้วย


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป


อ้างอิง   http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/004/T_0001.PDF


###


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 จากองค์การอนามัยโลก

https://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019/situation-reports

ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/eng/news.php

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000

https://www.businesseventsthailand.com/en/situation-update-coronavirus-covid-19 หรือ info@tceb.or.th


แชร์บทความ